.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (31 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาสภาคองเกรสสหรัฐเตรียมลงมติร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้

 

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,982.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 34.80 เซนต์ หรือ 1.50% ปิดที่ 23.587 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 22.90 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 999 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 38.50 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,359 lดอลลาร์/ออนซ์

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับ 3.669% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาด เนื่องจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

อย่างไรก็ดี ตลอดเดือนพ.ค. สัญญาทองคำปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.8% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้และสนับสนุนกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน

 

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

 

นักลงทุนจับตาสภาคองเกรสสหรัฐซึ่งจะทำการลงมติร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ที่มีชื่อว่า “พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง” (Fiscal Responsibility Act) ในวันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 07.30 น.ตามเวลาไทย รวมทั้งจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์