ระวังเกิดแรงเทขายทองคำ

Gold Bullish

  • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
  • ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization

Gold Bearish

  • เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
  • เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูงนานขึ้น

ระวังเกิดแรงเทขายทองคำ หากเกิดปัจจัยดังต่อไปนี้

หลังจากที่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงทั้งทองคำโลกและทองคำไทย โดยปีนี้ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นกว่า 15.95% และทองคำแท่งในประเทศปรับตัวขึ้นกว่า 23.92% ขณะที่ราคาทองคำในปีนี้ยังคงมีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นได้ต่ออีกหรือไม่? และยังคงน่าสนใจที่จะเข้าซื้อทองคำอีกหรือไม่? ซึ่งหากมองในเชิงระยะยาว ราคาทองคำยังน่าสนใจและมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ในระยะสั้นเราเริ่มให้มองถึงความเสี่ยงที่ทองคำจะเกิดแรงเทขายออกมา จากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

.

ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือสงครามในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลายลง

แม้ว่าความขัดแย้งที่อาจก่อให้เกิดสงครามที่กำลังร้อนระอุเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรง ซึ่งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลว่าสงครามจะบานปลายแล้วลุกลามกลายเป็นสงครามภูมิภาค หลังจากที่มีข่าวว่าอิสราเอลโจมตีอิหร่าน ซึ่งความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจจะยังไม่ยุติในเร็ววันนี้ แต่หากเริ่มผ่อนคลายลงไปบ้าง อาจจะส่งผลทำให้เกิดแรงเทขายทองคำออกมาบ้าง เนื่องจากหลังจากการโจมตีของอิสราเอลนั้น อิหร่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ดังกล่าว และระบุว่าอิหร่านไม่มีแผนการที่จะตอบโต้แต่อย่างใด และการที่อิสราเอลส่งโดรนเพียง 3 ลำโจมตีอิหร่านก็เป็นการแสดงออกว่า อิสราเอลพร้อมที่จะลดระดับความขัดแย้งกับอิหร่านเช่นกัน ซึ่งเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มากกว่าที่มีจุดประสงค์เพื่อทำลายล้างอิหร่าน ดังนั้นระยะสั้นนั้นความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจผ่อนคลายลงไปบ้าง เนื่องจากสงครามยังอยู่ในวงจำกัด และอาจยังไม่ลุกลามบานปลายไปสู่สงครามระดับภูมิภาค

.

เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยที่นานขึ้น

ด้วยเงินเฟ้อสหรัฐที่ยังคงอยู่ระดับสูง ทำให้เฟดอาจตัดสินใจที่จะเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยออกไปในปีนี้ ทั้งนี้ล่าสุดนักลงทุนได้มีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 หรือ 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. จากเดิมที่เคยคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ซึ่งมุมมองของนักลงทุนมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ขึ้นกับตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่เปิดเผยออกมาในแต่ละสัปดาห์ การที่เฟดมีแนวโน้มที่จะตรึงดอกเบี้ยที่สูงนานขึ้น อาจเป็นหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงมาในระยะสั้นได้

.

แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่า

แม้ว่าที่ผ่านมาดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อราคาทองคำมากเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยยังมีแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามา หากปัจจัยด้านสงครามเริ่มผ่อนคลายลงไปบ้าง ดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าอาจกลับมากลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงในระยะสั้นได้

.

สัญญาณทางเทคนิคเริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวลง

ถ้าดู indicator หลายตัวของราคาทองคำ จะเห็นว่า indicator ก็เริ่มส่งสัญญาณถึงการปรับตัวลงของราคาทองคำในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็น MACD ซึ่งเป็นสัญญาณที่ช้าแต่แน่นอน โดยสัญญาณจาก MACD อยู่ต่ำกว่า Signal line ขณะที่สัญญาณจาก Modified Stochastic เกิด %K ตัด %D ลงมา ซึ่งเป็นสัญญาณการปรับตัวลงระยะสั้น อย่างไรก็ตามยังคงต้องพิจารณาอีกหลายปัจจัย หากว่าประเด็นสงครามเริ่มผ่อนคลายลง สัญญาณจากเทคนิคของราคาทองคำก็อาจกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามระยะกลางและระยะยาว ทองคำยังคงน่าสนใจ และมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ไปสู่ All-Time High ใหม่ หากมีการย่อตัวหรือปรับฐานของราคาทองคำ ก็เป็นสัญญาณที่ดีในการเข้าซื้อทองคำได้

.

สัปดาห์นี้หากราคาทองคำหลุดบริเวณแนวรับ 2,368-2,372 ดอลลาร์ อาจทำให้เกิดสัญญาณขาย แนะนำรอเข้าซื้อทองคำบริเวณราคา 2,320-2,325 ดอลลาร์ และบริเวณแนวรับ 2,300 ดอลลาร์ หากเป็นการเปิดสถานะขายยังคงแนะนำให้เน้นการเข้าเร็วและออกเร็ว สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  2,320 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,400 ดอลลาร์ และ 2,431 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 41,300 บาท และ 41,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,800 บาท และ 42,000 บาท

ดาวน์โหลดเอกสาร